Not Dead Yet

รีวิวหนัง: Not Dead Yet เป็นซีรีส์แนวคอมเมดี้-ดราม่าที่ออกอากาศในปี 2023 ซึ่งนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับชีวิตหลังจากที่เธอประสบอุบัติเหตุที่ทำให้เธอคิดว่าเธอตายไปแล้ว แต่จริง ๆ แล้วเธอแค่ไม่สามารถจำเรื่องราวในอดีตได้ ซีรีส์นี้มีความสนุกสนานและมีมิติในการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม

รายละเอียดนักแสดง

• Gina Rodriguez รับบทเป็น “Nina” – ตัวละครหลักที่ต้องเผชิญกับชีวิตใหม่หลังจากที่เธอคิดว่าตัวเองตาย
• Lauren Ash รับบทเป็น “Liz” – เพื่อนสนิทของ Nina ที่คอยสนับสนุนเธอในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
• Rick Gonzalez รับบทเป็น “Daniel” – ชายหนุ่มที่เข้ามาในชีวิตของ Nina และมีบทบาทสำคัญในการช่วยเธอ
• Angela Kinsey รับบทเป็น “Megan” – เพื่อนร่วมงานของ Nina ที่คอยช่วยเหลือในเรื่องการทำงาน

คะแนนและการตอบรับ

ซีรีส์ “Not Dead Yet” ได้รับคะแนน IMDB อยู่ที่ 7.2/10 ซึ่งถือว่าค่อนข้างดี และมีคะแนน Rotten Tomatoes อยู่ที่ 75% โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมและนักวิจารณ์ เนื่องจากการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดง

สรุปเนื้อเรื่อง

เนื้อเรื่องของ “Not Dead Yet” เริ่มต้นเมื่อ “Nina” (Gina Rodriguez) เป็นนักเขียนที่มีชีวิตที่ดี แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเมื่อเธอประสบอุบัติเหตุที่ทำให้เธอคิดว่าเธอตายไปแล้ว ในขณะที่เธอต้องฟื้นฟูตัวเองและกลับมาสู่ชีวิตธรรมดา เธอเริ่มเห็นวิญญาณของผู้คนที่ยังมีเรื่องราวที่ยังไม่จบ ก่อนที่เธอจะช่วยให้พวกเขาปลดปล่อยตัวเองจากชีวิตที่ติดขัด

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สนุกสนานและมีมุกตลกที่ดี แต่มันยังนำเสนอแง่คิดเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และการยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การแสดงของ Gina Rodriguez ก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเชื่อมโยงและเข้าใจถึงความเจ็บปวดที่ตัวละครต้องเผชิญ

หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่มีทั้งความสนุกสนานและแง่คิดที่ลึกซึ้ง “Not Dead Yet” เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่คุณไม่ควรพลาด นอกจากจะทำให้คุณหัวเราะแล้ว ยังสามารถช่วยให้คุณตั้งคำถามกับชีวิตได้มากขึ้น

finfin168

Despicable Me 3

คำนำหน้า รีวิวหนัง Despicable Me 3

ในปี 2017 หนังคอมเมดี้แอนิเมชันที่ทุกคนรอคอยอย่าง Despicable Me 3 หรือในชื่อไทยว่า “มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 3” ได้กลับมาอีกครั้งเพื่อนำเสนอเรื่องราวที่สนุกสนานและอบอุ่นหัวใจ โดยในภาคนี้ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครที่เรารู้จักกันดี รวมถึงการเพิ่มตัวละครใหม่ที่น่าสนใจเข้าไปอีกด้วย

นักแสดง

ใน Despicable Me 3 เราจะได้ยินเสียงพากย์จากนักแสดงที่มีชื่อเสียงอาทิ:

• Steve Carell รับบท Gru
• Kristen Wiig รับบท Lucy Wilde
• Miranda Cosgrove รับบท Margo
• Steve Coogan รับบท Balthazar Bratt
• Pierre Coffin รับบท Minions

คะแนนจากเว็บไซต์ต่างๆ

สำหรับคะแนนจากเว็บไซต์ IMDb, Despicable Me 3 ได้รับคะแนนอยู่ที่ 6.3/10 โดยผู้ชมและนักวิจารณ์ให้ความเห็นว่าเป็นภาพยนตร์ที่สนุกและเหมาะสำหรับครอบครัว ขณะที่เว็บไซต์ Rotten Tomatoes ให้คะแนนการยอมรับอยู่ที่ 60% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชมบางส่วนยังรู้สึกว่าภาพยนตร์ในภาคนี้ไม่สามารถทำได้ดีเท่าภาคก่อนๆ

สรุปเนื้อเรื่อง

ใน Despicable Me 3 เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Gru และ Lucy ได้กลายเป็นสายลับที่ทำงานร่วมกัน และพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ นั่นคือ Balthazar Bratt ซึ่งเป็นอดีตดาราเด็กที่มีความหลงใหลในยุค 80 และต้องการทำลายโลกด้วยแผนการอันบ้าคลั่งของเขา

ขณะเดียวกัน Gru ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตส่วนตัว เมื่อเขาได้พบกับพี่ชายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน นั่นคือ Dru ซึ่งมีบุคลิกที่ตรงข้ามกับเขา โดย Dru ต้องการที่จะเดินตามรอยเท้าของ Gru ในการเป็นวายร้าย แต่ Gru พบว่าการเป็นวายร้ายไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอีกต่อไป

ความขัดแย้งและการผจญภัยของ Gru, Lucy, และลูกๆ จะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัว และความสำคัญของการมีคนที่รักอยู่เคียงข้าง ในขณะที่มินเนียนก็ยังคงสร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนานตลอดทั้งเรื่อง

บทสรุป

โดยรวมแล้ว Despicable Me 3 เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยความสนุกสนานและบทเรียนเกี่ยวกับความรักและครอบครัว แม้ว่าจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนภาคก่อนๆ แต่ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกดีหลังจากชมจบ

สำหรับผู้ที่สนใจในความบันเทิงออนไลน์ สามารถเข้าไปที่ สล็อต888 เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจได้อีกด้วย

In the Name of the King 3 The Last Job

รีวิวหนังออนไลน์: ‘In the Name of the King 3: The Last Job’ เป็นภาพยนตร์แอ็คชันแฟนตาซีที่ออกฉายในปี 2014 ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของซีรีส์ ‘In the Name of the King’ ที่ผู้กำกับ Uwe Boll ได้สร้างขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของนักฆ่าที่ต้องการหลีกหนีจากอดีตของเขาและเมื่อเขาถูกดึงกลับเข้าสู่วงการอาชญากรรมอีกครั้ง เขาจึงต้องทำงานที่เสี่ยงอันตรายเพื่อให้ได้อิสรภาพ

นักแสดง

• Jason Statham รับบทเป็น ‘Griffin’ นักฆ่าที่พยายามหลีกหนีจากชีวิตเก่า
• Percy Hynes White รับบทเป็น ‘Young Griffin’
• Dominique Swain รับบทเป็น ‘Kana’
• Roxanne McKee รับบทเป็น ‘The Assassin’
• Michael Eklund รับบทเป็น ‘The Boss’

คะแนนและบทวิจารณ์

คะแนนจาก IMDb อยู่ที่ 4.3/10 และคะแนนจาก Rotten Tomatoes ไม่สูงนัก โดยมีการจัดอันดับต่ำกว่า 30% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับที่ไม่ค่อยดีจากผู้ชมและนักวิจารณ์

สรุปเนื้อเรื่อง

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ ‘Griffin’ นักฆ่าผู้มีอดีตที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและความเจ็บปวด เขาได้ตัดสินใจที่จะเลิกเป็นนักฆ่าและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองหนึ่ง แต่เมื่อเขาได้รับการติดต่อจาก ‘The Boss’ ที่ต้องการให้เขาไปทำภารกิจฆ่าคู่แข่งเพื่อให้ได้อิสรภาพ เขาจึงต้องกลับไปสู่โลกแห่งความรุนแรงอีกครั้ง

ในระหว่างที่เขาทำภารกิจ Griffin ได้พบกับ ‘Kana’ ผู้หญิงที่มีความลับและเป็นเป้าหมายในการฆ่า ซึ่งทำให้เขาต้องทบทวนเกี่ยวกับชีวิตและความรักอย่างลึกซึ้ง แม้ว่า Griffin จะพยายามทำงานให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขากลับพบว่าตนเองต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งและการทรยศจากคนใกล้ตัว

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยฉากแอ็คชันที่น่าตื่นเต้น แม้ว่าจะไม่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีนัก แต่แฟน ๆ ของ Jason Statham และภาพยนตร์แอ็คชันอาจจะยังสนใจในผลงานนี้อยู่ดี

หากคุณเป็นคนที่ชอบหนังที่มีการต่อสู้และเรื่องราวที่เน้นการค้นหาตนเอง ‘In the Name of the King 3: The Last Job’ อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการรับชมในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้

BLACKPINK: Light Up the Sky

รีวิวหนังออนไลน์ BLACKPINK: Light Up the Sky เป็นสารคดีที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตและการเดินทางของวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังจากเกาหลีใต้ BLACKPINK ที่เปิดตัวในปี 2016 สารคดีนี้ถูกปล่อยออกมาในปี 2020 ผ่านทาง Netflix และได้รับความนิยมอย่างสูงจากแฟนเพลงและผู้ชมทั่วไป

รายละเอียดนักแสดง

สารคดีนี้มีการพูดคุยและสัมภาษณ์สมาชิกของวง BLACKPINK ที่ประกอบด้วย:

• เจนนี่ (Jennie) – ร้องนำและแร็ปเปอร์
• โรเซ่ (Rosé) – ร้องนำ
• ลิซ่า (Lisa) – แร็ปเปอร์และนักเต้น
• จีซู (Jisoo) – ร้องนำและนักแสดง

คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes

BLACKPINK: Light Up the Sky ได้รับคะแนนจาก IMDB ที่ 7.3/10 และจาก Rotten Tomatoes ได้คะแนน 100% สำหรับนักวิจารณ์ และ 97% สำหรับผู้ชม ทำให้แสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีจากทั้งสองแหล่งข้อมูล

สรุปเนื้อหา

สารคดีนี้จะพาผู้ชมไปสัมผัสกับการเติบโตและการเดินทางของ BLACKPINK ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเป็นวงที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผ่านการสัมภาษณ์ส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคน การฝึกซ้อม การแสดงสด และความท้าทายต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องเผชิญในวงการบันเทิง

เราได้เห็นมุมมองที่หลากหลายของสมาชิกแต่ละคน ทั้งในเรื่องของความฝัน ความทุ่มเท และความรักที่มีต่อการทำงานในวงการเพลง นอกจากนี้ยังมีเบื้องหลังการสร้างสรรค์เพลงและการเตรียมตัวสำหรับการแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกใกล้ชิดกับพวกเขามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ BLACKPINK: Light Up the Sky ยังได้แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนที่พวกเขาได้รับจากแฟนเพลงทั่วโลก และการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในวง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในวงการเพลง โดยเฉพาะการทำงานเป็นทีม

โดยรวมแล้ว BLACKPINK: Light Up the Sky เป็นสารคดีที่น่าสนใจและควรค่าแก่การรับชมสำหรับแฟนเพลงและผู้ที่สนใจในเรื่องราวของวงการบันเทิง และช่วยให้เราเข้าใจถึงความยากลำบากและความพยายามที่พวกเขาต้องผ่านเพื่อที่จะมาถึงจุดนี้

ถ้าคุณเป็นแฟนเพลงของ BLACKPINK หรือสนใจในวงการ K-Pop สารคดีนี้จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดเด็ดขาด!